กระจกกันเสียงแบบนี้ เหมาะกับห้องแบบไหน?

กระจกกันเสียงแบบนี้ เหมาะกับห้องแบบไหน

สถาปนิกและนักออกแบบต้องรู้! คู่มือเลือกกระจกกันเสียงตามค่า STC (Sound Transmission Class) ตั้งแต่ Float Glass ถึง Laminated Acoustic Glass เพื่อสร้างพื้นที่เงียบสงบ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้สอยในทุกอาคาร

 

ในโลกของการออกแบบอาคารยุคใหม่ ความสวยงามของดีไซน์อาจไม่เพียงพออีกต่อไป “คุณภาพของสภาพแวดล้อมภายใน” กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพ ความสุข และประสิทธิภาพในการทำงาน และหนึ่งใน “มลภาวะ” ที่ถูกละเลยมากที่สุดคือ เสียงรบกวน

ในฐานะสถาปนิกและนักออกแบบ การเลือกใช้ กระจกกันเสียง (Acoustic Glass) จึงเป็นมากกว่าการเลือกวัสดุ แต่คือการลงทุนเพื่อมอบ “สุนทรียภาพแห่งความเงียบ” (Acoustic Comfort) ให้กับผู้ใช้งานอาคาร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ากระจกแบบไหนที่ตอบโจทย์โครงการของคุณ? คำตอบอยู่ที่ค่ามาตรฐานที่เรียกว่า STC

เข้าใจหัวใจของการกันเสียง: ค่า STC (Sound Transmission Class) คืออะไร?

เมื่อคุณต้องตัดสินใจเลือกวัสดุกันเสียง สิ่งที่ต้องมองหาคือตัวเลขที่เรียกว่า STC

  • STC (Sound Transmission Class) คือ ค่ามาตรฐานสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพการลดเสียงของวัสดุ เช่น ผนัง ประตู และแน่นอนว่ารวมถึงกระจก
  • หลักการง่ายๆ: STC ยิ่งสูง วัสดุยิ่งกันเสียงได้ดี

ค่า STC เป็นตัวบ่งชี้ที่แม่นยำที่สุดในการสื่อสารกับผู้ผลิตและผู้รับเหมา ว่าพื้นที่ที่คุณออกแบบนั้น ต้องการความเงียบในระดับใด

เทียบชัด! 5 ประเภทกระจก กับระดับการกันเสียง (STC) ที่คุณต้องรู้

การเลือกกระจกที่เหมาะสมคือการจับคู่ระหว่าง “ระดับเสียงรบกวนภายนอก” และ “ความต้องการความเงียบภายใน” ของพื้นที่นั้นๆ มาดูกันว่ากระจกแต่ละประเภทที่นิยมใช้ มีความสามารถในการกันเสียง (STC Rating) อยู่ที่ระดับใดบ้าง

Float Glass

Tempered Glass

Insulated Glass

Laminated PVB Glass

Laminated Acoustic Glass

Laminated Insulated Acoustic Glass

ประเด็นที่สถาปนิกและนักออกแบบไม่ควรมองข้าม

นอกเหนือจากค่า STC ที่เป็นปัจจัยหลักแล้ว การเลือก Acoustic Glass ยังมอบประโยชน์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับแนวคิดการออกแบบที่ยั่งยืนและคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน

 

  1. ความยืดหยุ่นทางดีไซน์ (Design Versatility)

แสงธรรมชาติไม่หายไป: กระจกกันเสียงส่วนใหญ่ยังคงให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ดี ทำให้พื้นที่ภายในยังคงมีความสว่างและโปร่งโล่งตามหลักการออกแบบที่ต้องการ

 

มัลติฟังก์ชัน: Acoustic Glass สามารถใช้ร่วมกับกระจกเคลือบ Low-E (Low Emissivity) หรือ Solar Control เพิ่มได้ ทำให้เป็นกระจกที่ กันเสียง + ประหยัดพลังงาน + กรองแสงแดด ได้ในแผ่นเดียว เป็นทางออกที่ชาญฉลาดสำหรับอาคารขนาดใหญ่ (Facade Design)

ความหนาที่เหมาะสม: สำหรับสถาปนิก การเลือกใช้ Laminated Acoustic Glass มักจะให้ผลการกันเสียงที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับกระจก Insulated Glass ทั่วไปที่มีความหนารวมมากกว่า เพราะชั้นฟิล์ม Acoustic มีประสิทธิภาพในการซับคลื่นเสียงได้ดีกว่าช่องอากาศ

 

  1. ความปลอดภัยและความทนทาน (Safety & Durability)

กระจกประเภท Laminated ไม่ว่าจะเป็นแบบ PVB ทั่วไป หรือ Acoustic Glass ถือเป็น Safety Glass เนื่องจากฟิล์มที่อยู่ตรงกลางจะช่วยยึดเศษกระจกไว้เมื่อแตก ทำให้ลดความเสี่ยงต่ออันตรายอย่างมาก (เป็นคุณสมบัติที่ Tempered Glass มอบให้ในความทนทาน, แต่ Laminated มอบในความปลอดภัยหลังการแตก)

ด้วยโครงสร้างหลายชั้น ทำให้กระจก Laminated มีความทนทานต่อการโจรกรรมระดับที่สูงกว่ากระจกชั้นเดียว

 

  1. ผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพ (Health & Performance)

ลดความเครียด: มลภาวะทางเสียงเป็นสาเหตุหลักของความเครียดและอาการนอนไม่หลับ การใช้กระจกกันเสียงช่วยสร้าง “ที่พักพิง” จากเสียงรบกวนภายนอกได้จริง

เพิ่ม Productivity: ในพื้นที่ทำงาน เช่น ออฟฟิศและห้องประชุม การลดเสียงรบกวนภายนอก (เช่น เสียงการจราจร หรือเสียงไซต์งานก่อสร้าง) จะช่วยให้พนักงานมีสมาธิ และการประชุมสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

การเลือกใช้กระจกที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่มีความสำคัญต่อการควบคุมเสียงภายในอาคาร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ไม่ว่าคุณจะออกแบบบ้านพักอาศัยระดับพรีเมียมใจกลางเมืองที่ต้องการความเงียบสงบ หรืออาคารสำนักงานที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด การทำความเข้าใจค่า STC และคุณสมบัติของ Laminated Acoustic Glass จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดสเปควัสดุได้อย่างมั่นใจ และส่งมอบงานออกแบบที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านฟังก์ชันและความรู้สึกให้กับลูกค้าของคุณ

Share the Post: