3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกแบบ Glass House ให้สวยและใช้งานได้จริง

ทำไม Glass House ถึงกลายเป็นเทรนด์ในโครงการหรู? เพราะดีไซน์โปร่ง โล่ง เปิดรับวิวธรรมชาติ ทำให้บ้านกระจกดูสวยและหรูหรา แต่ถ้าเลือกใช้กระจกผิด อาจเจอปัญหาความร้อน แสงจ้า และความปลอดภัยที่ไม่คาดคิด!

 

Glass House หรือบ้านกระจก กลายเป็นจุดขายสำคัญของโครงการพักอาศัยสไตล์หรูในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นมุมจิบกาแฟยามเช้า ห้องอ่านหนังสือ หรือโซนรับแขกที่เชื่อมต่อธรรมชาติได้อย่างลงตัว แต่การออกแบบ Glass House ไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงามที่ต้องคำนึง หากเลือกกระจกไม่เหมาะสม อาจเกิดปัญหาความร้อน ความปลอดภัย และความทนทานในระยะยาว บทความนี้จะพาไปรู้จักปัจจัยสำคัญในการเลือกกระจกสำหรับ Glass House ให้ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน

ทำไมโครงการหรูนิยมออกแบบ Glass House หรือบ้านกระจก?

เพราะดีไซน์สไตล์ Glass House ช่วยสร้างความโปร่งโล่ง เชื่อมต่อกับธรรมชาติ และเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ทำให้พื้นที่ภายในสว่างขึ้นและช่วยประหยัดพลังงานในเวลากลางวัน ที่สำคัญ งานดีไซน์แบบนี้ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์โครงการให้ดูหรูหรา ทันสมัย และพรีเมียมมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ Glass House กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในโครงการที่เน้นความหรูและคุณภาพ

สิ่งที่ต้องคิดก่อนออกแบบ Glass House

การออกแบบ Glass House หรือบ้านกระจก ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่สิ่งสำคัญที่นักออกแบบและเจ้าของบ้านควรพิจารณาคือการเลือกวัสดุกระจก ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของบ้านกระจก ต้องทั้งแข็งแรง ปลอดภัย และตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ในบทความนี้ เราจะสรุป 3 ปัจจัยหลักที่ต้องรู้ก่อนออกแบบ Glass House เพื่อให้ได้ทั้งความสวยงามและความปลอดภัย

ออกแบบ Glass House

1. ความแกร่งเหนือชั้น ความปลอดภัยขั้นสุด

การออกแบบ Glass House หรือบ้านกระจก มักต้องใช้กระจกในพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อแรงลม การกระแทก หรือแรงดันจากโครงสร้าง หากเลือกใช้กระจกธรรมดา เมื่อแตก เศษกระจกจะแตกเป็นชิ้นแหลมคม เสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรง ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยคือ กระจกลามิเนต (Laminated Glass) ที่ประกอบด้วยกระจก 2 แผ่นประกบฟิล์มตรงกลาง ช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้หลุดร่วงเมื่อแตก เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะ กระจกลามิเนตที่ใช้ฟิล์ม SentryGlas® ซึ่งแข็งแรงกว่าฟิล์มทั่วไปหลายเท่า และเป็นมาตรฐานที่โครงการระดับโลกอย่าง Grand Canyon Skywalk และ Apple Store เลือกใช้ เพื่อความทนทานและปลอดภัยในระยะยาว ทำ Glass House ครั้งเดียวจบ ไม่ต้องกังวลปัญหาในอนาคต

ออกแบบ Glass House

2. กันร้อนได้จริง ตอบโจทย์เรื่องความโปร่ง

การออกแบบ Glass House หรือบ้านกระจกในเมืองไทยต้องเจอปัญหาใหญ่คือแดดแรงและความร้อนสูง หากเลือกกระจกไม่เหมาะสม อาจทำให้พื้นที่ภายในร้อนอบอ้าวและใช้งานไม่สบาย ทางแก้ที่ตอบโจทย์คือการเลือกใช้ กระจกที่ช่วยกันความร้อนได้ดี เช่น กระจก Low-E (Low Emissivity) ซึ่งผ่านการเคลือบสารพิเศษเพื่อสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้ยังคงเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างนุ่มนวล พร้อมช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ให้ Glass House โปร่ง โล่ง สบาย โดยไม่ต้องกังวลกับความร้อนระหว่างวัน

ออกแบบบ้านกระจก Glass House

3. ความลงตัวของฟังก์ชันและดีไซน์

การออกแบบ Glass House ที่ดี ไม่ได้จบแค่ความสวยงามภายนอก แต่ต้องคำนึงถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตจริง ซึ่งหนึ่งในรายละเอียดสำคัญคือ การเลือกกระจกให้เหมาะสมกับ Mood & Tone ของงาน หากต้องการบรรยากาศโปร่งโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ และชมวิวโดยรอบอย่างชัดเจน ควรเลือกใช้ กระจกที่มีความใส (Clear Glass) เพื่อให้ได้ความโปร่งที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชันในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ความสวยต้องมาพร้อมประโยชน์ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิ ความเป็นส่วนตัว หรือความปลอดภัย กระจกที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของโทนสีหรือความใส แต่ต้องมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้การอยู่อาศัยสบายขึ้นด้วย

 

เช่นเดียวกับ TYK Glass ที่มาพร้อมกระจกนิรภัยลามิเนตที่ใช้ฟิล์ม SentryGlas® ซึ่งมีความแข็งแรงที่สุดในตลาดตอนนี้ เพื่อตอบโจทย์งานออกแบบสำหรับโครงการหรูที่นิยมทำ Glass House ในบ้านและอาคารต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความใสของชั้นฟิล์ม SentryGlas® จึงทำให้กระจกโครงสร้างของ TYK Glass ตอบโจทย์ได้ครบทั้งความสวย ความปลอดภัย และลงตัวในการใช้งานจริง

สำหรับใครที่กำลังวางแผนในการสร้าง Glass House เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความสวยหรูและใช้งานได้จริง แนะนำว่าควรเริ่มจากการเลือกใช้กระจกคุณภาพสูงที่ทั้งสวยและปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว

ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ strengthglas

 

Share the Post: