เลือกสีกระจกบ้านแบบไหนให้สวย อยู่สบาย ไม่ร้อน

เลือกสีกระจกบ้าน

รู้ไหม? การเลือกใช้กระจกแต่ละสีทำให้อุณหภูมิในบ้านต่างกันมากกว่าที่คิด! แต่คำถามคือ เราควรเลือกกระจกบ้านแบบไหนดีที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยและเย็นสบายไปพร้อมกัน?

 

เพราะนอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว สีของกระจกยังส่งผลต่อความร้อน แสงสว่าง ความเป็นส่วนตัว และแม้กระทั่งค่าไฟในระยะยาว สำหรับ นักออกแบบ การเลือกกระจกที่เหมาะสมคือการสร้างสมดุลระหว่างความสวยงามและการใช้งานจริง ส่วน เจ้าของบ้าน ก็ต้องมั่นใจว่าการลงทุนนี้ตอบโจทย์ทั้งความสวยและความสบายในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาไปรู้จักแนวทางการเลือกใช้กระจกแต่ละสีให้เหมาะกับบ้านที่คุณรัก

ทำไม “สีของกระจก” ถึงสำคัญ?

กระจกไม่ได้มีแค่สีใสเท่านั้น ปัจจุบันมีให้เลือกหลายเฉดสี เช่น กระจกสีเขียว สีเทา สีฟ้า และสีชา หรือแบบกระจกสะท้อนแสง ซึ่งแต่ละสีมีผลต่อสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • ความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน
  • ปริมาณแสงธรรมชาติ
  • ความเป็นส่วนตัว
  • สไตล์การตกแต่ง

ดังนั้น การเลือกสีกระจกที่ถูกต้องจะช่วยให้บ้าน สวย อยู่สบาย และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น

Types of Glass for Houses

กระจกบ้านยอดนิยมและคุณสมบัติของแต่ละสี

  1. กระจกใส (Clear Glass)

  • ข้อดี: ให้แสงธรรมชาติได้เต็มที่ ทำให้บ้านโปร่งโล่ง เหมาะกับบ้านที่ต้องการเน้นความสว่าง
  • ข้อควรระวัง: รับความร้อนได้มาก ทำให้บ้านร้อนง่าย และไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควร
  • เหมาะสำหรับ: ห้องที่ไม่โดนแดดโดยตรง หรืออาจต้องติดม่านกันความร้อนเพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์การตกแต่งบ้านบางสไตล์ที่เน้นความเรียบหรู ทันสมัย

 

  1. กระจกเขียวตัดแสง (Green Tint)

  • ข้อดี: ลดความร้อนได้ระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกเย็นตา สบาย เหมาะกับบ้านในเขตร้อน
  • ข้อควรระวัง: สีเขียวอาจไม่เข้ากับทุกสไตล์บ้าน
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่หันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก

 

  1. กระจกสีเทา (Gray Tint)

  • ข้อดี: ดูหรูหรา ให้ลุคสวยทันสมัย ตอบโจทย์แบบบ้านและงานดีไซน์สมัยใหม่ พร้อมช่วยลดความจ้าและความร้อนจากแสงแดดได้ดี
  • ข้อควรระวัง: ควรเลือกกระจกที่มีสีเทาในระดับที่พอดี และมีคุณสมบัติที่ช่วยกันความร้อนได้จริง เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศในตอนกลางวัน
  • เหมาะสำหรับ: บ้านและอาคารสไตล์โมเดิร์น หรือพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง

 

  1. กระจกสะท้อนแสง (Reflective Glass)

  • ข้อดี: สะท้อนความร้อนและรังสี UV ได้ดี ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
  • ข้อควรระวัง: ตอนกลางคืนถ้าเปิดไฟในบ้าน คนข้างนอกอาจมองเห็น ต้องใช้ม่านเสริม
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่หันหน้ารับแดดแรง และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง

 

  1. กระจก Low-E (Low Emissivity)

  • ข้อดี: เทคโนโลยีป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ดี ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้
  • ข้อควรระวัง: ราคาค่อนข้างสูงกว่ากระจกทั่วไป แต่คุ้มค่าในอนาคต
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการความเย็นสบาย และเน้นประหยัดพลังงานระยะยาว

 

Types of Glass for Houses

เลือกกระจกยังไงให้เหมาะกับบ้าน

  • คำนึงถึงทิศทางแดด: ทิศที่แดดส่องแรงควรเลือกกระจกสีเข้ม เช่น สีชา หรือสีเทา เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน
  • เลือกกระจกโทนสี Neutral หรือโทนสีกลาง: แนะนำให้เลือกกระจกที่มีโทนสีธรรมชาติ เช่น กระจกสีเทา นอกจากจะช่วยเพิ่มลุคให้บ้านดูสวยทันสมัย และมองเห็นวิวภายนอกที่มีสีสวยสมจริงแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในบ้านเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวระหว่างวัน
  • เลือกกระจกที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV: เพื่อช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์ ผนังไม่ให้ซีดจาง และปกป้องผู้อยู่อาศัยภายในบ้านให้ปลอดภัยจากรังสี UV จึงควรเลือกใช้กระจกบ้านที่ป้องกันรังสี UV ได้ดี
  • ดูเรื่องแสงสะท้อนแสงของกระจกไปยังพื้นที่รอบข้าง: โดยเกณฑ์ EIA กำหนดให้กระจกอาคารควรมีค่าการสะท้อนแสง VLR Out (Visible Light Reflectance Out) อยู่ที่ 10%-15% หากมีค่ามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เกิดแสงสะท้อนรบกวนพื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้น แม้โครงการบ้านอาจยังไม่เคร่งครัดเท่าอาคารสูง แต่ก็ควรเลือกใช้กระจกที่ไม่มีแสงสะท้อนรบกวนเกินจนเกินไป

 

กระจกประหยัดพลังงานที่ผ่าน EIA

หากใครที่กำลังมองหากระจกสำหรับบ้านและอาคารสูง ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสวยและช่วยกันร้อนได้จริง ที่ TYK Glass เรามี กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max หลากหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการสำหรับบ้านและอาคารสูง ที่สำคัญยังมี กระจกประหยัดพลังงานที่ผ่านเกณฑ์ EIA สามารถตอบโจทย์ครบทั้งฟังก์ชันกันแดด กันร้อน และกัน UV ได้มากถึง 99.99% พร้อมค่า CRI ที่สูงถึง 96% จึงช่วยเพิ่มความสมดุลระหว่างการกันแดด กันร้อน และทำให้มองเห็นสีจริงผ่านกระจกได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

 

ตัวอย่างกระจกประหยัดพลังงานที่ผ่านเกณฑ์ EIA

  • กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Clear

Color = Light Grey

SHGC = 0.53

LSG = 1.25

Reflect Out = 10%

กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Clear

  • กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Green

Color = Light Green

SHGC = 0.54

LSG = 1.31

Reflect Out = 10%

• กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Green

  • กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Clear Plus

Color = Light Grey

SHGC = 0.54

LSG = 1.22

Reflect Out = 8%

กระจกประหยัดพลังงาน Kool Max รุ่น KM Clear Plus

การเลือกกระจกบ้านจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ต้องมองถึงความสบายในชีวิตประจำวัน การควบคุมความร้อน และค่าใช้จ่ายระยะยาว สำหรับ นักออกแบบ ขอแนะนำวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และการใช้งานจริง ส่วน เจ้าของบ้าน ควรพิจารณาตามงบประมาณและความต้องการที่แท้จริง เพื่อให้ได้บ้านที่สวยและอยู่สบายทุกเวลา

 

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ กระจกประหยัดพลังงาน koolmax

Share the Post: