ถอดรหัส กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ความพิเศษที่ไม่ใช่กระจกอะไรก็ได้
ในยุคที่ “อาคารประหยัดพลังงาน” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นหนึ่งในมาตรฐานสำคัญของงานออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโครงการเชิงพาณิชย์ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า กระจกเองก็มีมาตรฐานประหยัดพลังงานเบอร์ 5 เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
แต่คำถามคือ…กระจกแบบไหนกันแน่ที่เข้าข่ายเป็นกระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5? และการใช้กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สำคัญต่องานออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างไร? บทความนี้จะพาไขรหัสตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงข้อควรรู้ที่นักออกแบบ และเจ้าของโครงการยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม
ทำไม “กระจก” ถึงมีผลต่ออาคาร?
กระจกคือวัสดุที่เชื่อมปฏิสัมพันธ์ระหว่างภายนอกและภายในอาคารมากที่สุด ทั้ง แสงแดด ความร้อน การมองเห็น และสุนทรียภาพ ล้วนเริ่มจากช่องเปิด ดังนั้นหากเลือกกระจกผิด อาจมีผลลัพธ์ด้านลบตามมามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- ความร้อนเข้าสู่อาคารมากขึ้น → เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก
- แสงธรรมชาติเข้าไม่พอ → ต้องเปิดไฟทั้งวัน
- กินพลังงานมากขึ้น → ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
นี่คือเหตุผลที่ทำให้มาตรฐาน “กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5” เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบอาคารเป็นอย่างมาก
กระจกแบบไหนถึงเรียกว่าเป็น “กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5”?
หลักสำคัญของมาตรฐานนี้เน้นอยู่ที่ สมดุลระหว่างแสงและความร้อน ที่กระจกยอมให้ผ่าน
-
แสงต้องมากกว่าความร้อน 1.2 เท่า
ซึ่งหมายถึงว่า กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จะต้องมีค่า VLT (Visible Light transmission) หรือค่าส่งผ่านแสงธรรมชาติ ≥ 1.2
- กระจกต้อง “เปิดให้แสงผ่านได้มากพอ” เพื่อช่วยลดการใช้ไฟ
- แต่ต้อง “ยอมให้ความร้อนผ่านน้อยกว่า” เพื่อไม่ให้ห้องร้อน
-
ค่า SHGC ต้อง ≤ 0.55
นอกจากนี้ กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ยังต้องมีค่า SHGC (Solar Heat Gain Coefficient) หรือ “ค่าความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ผ่านเข้ามา” ≤ 55% เท่านั้น
- ยิ่งค่า SHGC ต่ำยิ่งกันความร้อนได้ดี
-
กระจกที่สะท้อนแสงออกมากแต่ให้แสงผ่านน้อย ≠ กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5
หลายคนเข้าใจผิดว่า กระจกที่สะท้อนแสงออกไปเยอะๆ คือดี แต่หากแสงเข้าอาคารได้น้อยกว่าความร้อน จะไม่นับว่าเป็นกระจกที่ผ่านมาตรฐานประหยัดพลังงานเบอร์ 5
เพราะเป้าหมายของกระจกประหยัดพลังงานคือ “ใช้แสงธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยไม่เพิ่มความร้อนเข้าด้านในอาคาร”
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
-
เลือกกระจกจากค่าที่วัดได้จริง ไม่ใช่จากความรู้สึก
- กระจกบางอย่างอาจดูเหมือนใส แต่ค่า SHGC อาจยังสูง
- หรือบางกระจกที่ดูสีเข้มน่าจะกันร้อนได้ดี แต่มีค่า VLT ต่ำ ทำให้ต้องเปิดไฟส่องสว่างเพิ่มเติม
- คำแนะนำ: ควรเลือกกระจกที่มีบอก Performance ที่ชัดเจน และมีมาตรฐานรองรับ
-
พิจารณาทิศอาคารร่วมด้วย
- ทิศตะวันตกและทิศใต้รับความร้อนมากที่สุด
- หากใช้กระจกที่มีค่า SHGC สูงเกินไป ค่าไฟจะเพิ่มขึ้นทันที
- สำหรับอาคารสูง ยิ่งสำคัญ เพราะกระจกคือพื้นที่ผิวส่วนใหญ่ของฟาซาด
-
อย่าลืมค่าสี ความชัดใส และ mood & tone ของงานออกแบบ
- กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ไม่ได้มีเฉพาะแบบใส
- ปัจจุบันมีหลายเฉด หลายความเข้ม เพื่อรองรับ mood ของงาน เช่น Modern, Minimal, Loft, Luxury ทำให้สามารถออกแบบ façade หรือ interior ได้ตามคอนเซปต์ โดยไม่ต้องแลกกับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน
กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ดียังไง?
- อาคารเย็นขึ้นโดยไม่เปลืองค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ
- ใช้แสงธรรมชาติได้มากขึ้น ช่วยประหยัดพลังงานไฟส่องสว่าง
- บรรยากาศภายในสบายขึ้น (ไม่ glare, ไม่ร้อน)
- ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- ผ่านเกณฑ์ Green Building ง่ายขึ้น เช่น TREES, WELL, LEED
- เพิ่มคุณค่าของอาคารในด้าน Sustainability
TYK Solutions – koolmax กระจกประหยัดพลังงานสำหรับงานออกแบบยุคใหม่
koolmax โซลูชันกระจกประหยัดพลังงานจาก TYK ที่ตอบโจทย์มาตรฐานเบอร์ 5 เมื่อพูดถึง “กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5” หลายคนอาจกังวลว่าตัวเลือกจะน้อย หรือเฉดสีและสเปกอาจไม่รองรับคอนเซปต์งานออกแบบ แต่สำหรับ TYK Solutions เราได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ koolmax ที่ทั้งผ่านมาตรฐานเบอร์ 5 และออกแบบมาให้เหมาะกับงานจริงในทุกฟังก์ชันของอาคาร
koolmax คือกระจกที่ออกแบบโดยยึด 3 ปัจจัยหลักของงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่
- ประหยัดพลังงานจริง วัดได้จากค่า VLT / SHGC
- ตอบโจทย์สุนทรียะของงานออกแบบ
- สเปกชัดเจน เลือกใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ความต้องการ
จุดเด่น กระจกประหยัดพลังงาน koolmax
-
ผ่านเกณฑ์กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5
- กระจกประหยัดพลังงาน koolmax มี Solutions ที่ถูกพัฒนามาเพื่อให้มีค่า VLT มากกว่า SHGC อย่างน้อย 2 เท่า
และค่า SHGC ≤ 0.55 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกระจกประหยัดพลังงานที่แท้จริงตามมาตรฐานไทย - ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าได้เต็มที่
- ความร้อนเข้าสู่อาคารต่ำ
- ลดภาระเครื่องปรับอากาศและไฟส่องสว่างแบบวัดผลได้ในระยะยาว
-
ตอบโจทย์ทุกสไตล์อาคาร
- ไม่ต้องกังวลว่าการใช้กระจกประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จะทำให้ mood & tone ของงานผิดเพี้ยน เพราะกระจกประหยัดพลังงาน koolmax ถูกออกแบบให้คุม Reflection ได้ดี และมีตัวเลือกเฉดสีที่เหมาะกับ Facade ทั้งแบบมินิมอล โมเดิร์น และงาน Corporate
- ตัวเลือกสีหลากหลาย ไม่จำกัด Mood งานออกแบบ
- จุดเด่นนี้ช่วยให้นักออกแบบสามารถคุม façade ได้ตามคอนเซปต์
- ไม่สูญเสียความโปร่งหรือมุมมองภายใน
- ได้ความสมดุลทั้งประสิทธิภาพและความสวยงามในงานออกแบบจริง
-
ควบคุมความร้อนได้ดี และมองเห็นวิวชัดสวยสมจริง
- ข้อดีนี้สำคัญมากสำหรับงาน interior, shopfront หรือ façade ที่ต้องการคุณภาพในการมองวิวผ่านกระจกอาคารได้สวยสมจริงไม่ผิดเพี้ยน
- กระจกประหยัดพลังงาน koolmax พร้อมตอบโจทย์ให้มองเห็นวิวผ่านกระจกที่ใสเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาสีเพี้ยน
-
เหมาะกับงาน Façade และอาคารกระจกทุกรูปแบบ
- นักออกแบบและหลากหลายเจ้าของโครงการมั่นใจเลือกใช้ กระจกประหยัดพลังงาน koolmax เพราะคุมค่าพลังงานทั้งอาคารได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน, โครงการรีเทล, อาคารสาธารณะ, โรงพยาบาล หรืออาคารที่เน้นการ่ประหยัดพลังงาน
กระจกที่ช่วยให้ “ประหยัดพลังงานจริง” ต้องเริ่มที่สมดุลของแสงและความร้อน โดยค่าสัดส่วนระหว่างแสงและความร้อนที่ผ่านกระจกต้องถูกต้องตามมาตรฐานประหยัดพลังงานเบอร์ 5
สำหรับนักออกแบบ สถาปนิก หรือเจ้าของโครงการที่กำลังมองหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการประหยัดพลังงาน TYK Glass เรามี Solutions หลากหลายที่ช่วยยกระดับคุณภาพงาน และเพิ่มมูลค่าให้โครงการได้อย่างแท้จริง
ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ กระจกประหยัดพลังงาน koolmax







