จำหน่ายกระจกแปรรูปครบวงจร | TYK Glass | ตอยงเกียรติกลาส

รู้ไหม ? กระจกใส vs ใสพิเศษ


รู้ไหม ? กระจกใส vs ใสพิเศษ แตกต่างกันอย่างไร สังเกตได้ ง่ายนิดเดียว

จะเป็นอย่างไร ? หากกระจกที่คิดว่าใส ยังมีที่ใสมากกว่า ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดด ทำให้ปัจจุบันเราได้เห็นกระจกที่มีความใสพิเศษ เหนือกว่ากระจกธรรมดาทั่วๆไป และยังกลายเป็นหนึ่งวัสดุ ตัวเลือกแรกๆ ที่สถาปนิกนำมาใช้เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะมากขึ้น ด้วยคุณลักษณะพิเศษนี้เอง จึงทำให้ตัวกระจกมีเสน่ห์ด้วยตัวมันเอง รวมไปถึงยังสามารถนำไปสร้างสรรค์ผลงานในสายงานได้มากมาย หากใครยังนึกไม่ออกว่ามันจะต่างกับกระจกใสธรรมดาอย่างไร ? วันนี้เรารวบรวมคำตอบมาให้คุณแล้ว

Clear Glass

กระจกใสธรรมดา ที่ปกติเราเห็นกันทั่วไป หรือเรียกว่ากระจกโฟลต (float glass) มีลักษณะโปร่งใส สามารถมองทะลุผ่านทั้ง 2 ด้านได้อย่างชัดเจน เกิดจากกระบวนการผลิตที่เรียกว่า float process เป็นกระจกที่มีผิวทั้งสองด้านเรียบสนิท ทนทานต่อการขูดขีดเป็นรอยได้ดี โดยจะยอมให้แสงผ่านประมาณ75-92 % ของแสงที่ตกกระทบ ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาของกระจก และยังนำไปผลิตเป็นกระจกประเภทต่างๆเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นในการใช้งานได้อีกไม่ว่าจะเป็น กระจกเทมเปอร์ กระจกลามิเนต กระจกสีตัดแสง ฯลฯ

กระจกใสพิเศษ

Ultra-Clear Glass

ส่วนกระจกใสพิเศษ หรือเรียกว่า Low-iron glass หรือ Ultra clear glass คือกระจกโฟลทใส ซึ่งเป็นกระจก ที่มีความใสมากกว่ากระจกใสปกติทั่วๆไป เกิดจากการผลิตโดยการลดสาร Iron Oxide ออกไปจากขบวน การผลิตกระจกทำให้ความเขียวในเนื้อกระจกลดลงอย่างมาก สามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลาย รูปแบบเนื้อกระจกจะมีความบริสุทธิ์กว่า จึงทำให้ได้กระจกที่ใสกว่ากระจกทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด นั่นเอง


Clear Glass VS Ultra-Clear Glassแล้วมันต่างกันอย่างไร ?

กระจกใสธรรมดา โดยส่วนใหญ่จะมีค่าการส่องผ่านของแสง อยู่ที่ประมาณ 83-89% ขณะเดียวกันหากเป็น กระจกใสพิเศษ จะต่างกันที่ให้ค่าการส่องผ่านของแสงได้มากกว่ากระจกธรรมดาถึง 91% โดยประมาณ ส่งผลให้สีของกระจกสะท้อนได้เหมือนจริงมากกว่า สามารถมองผ่านเนื้อกระจกได้ชัดเจนมากขึ้น ปกติแล้วเราสามารถสังเกตได้จากสันกระจก ยิ่งถ้าหากกระจกหนามากขึ้น จะยิ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก

กระจกใสพิเศษ

โดยการมองดูตรงสันของกระจก หากเห็นว่ามีความเขียวในเนื้อกระจกแฝงอยู่ แปลว่าเป็นกระจกใสทั่วไป แต่เมื่อไรก็ตามถ้าขอบกระจกมีความใสพิเศษที่มากว่า หรือความเขียวในเนื้อกระจกน้อยมากๆ แสดงว่ากระจกแผ่นนี้ ได้ผ่านกระบวนการลดสาร Iron Oxide ไปแล้วนั่นเอง


เมื่อไรที่ต้องเลือกใช้ กระจกใสพิเศษ (Ultra-Clear Glass)

สำหรับงานที่ต้องการโชว์เนื้อสี หรือภาพอย่างสมบูรณ์ที่แท้จริงของกระจก ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงความ แตกต่างระหว่างกระจกใสธรรมดา และกระจกใสพิเศษได้ชัดเจน เช่น งานกระจกเคลือบสีขาว โดยเฉพาะเฉด สีอ่อนๆ การเคลือบสีขาวบนกระจกใสทั่วไป เมื่อมองผ่านบนพื้นผิวกระจกที่เคลือบไว้ เราจะได้เฉดสีขาวที่อมเขียวเล็กน้อย ดังนั้นถ้าต้องการกระจกเคลือบสี ที่ได้สีตามที่ต้องการเมื่อเทียบกับชาร์ทสีที่เลือกไว้ หรือต้องการ ความชัดเจนของภาพที่มองผ่าน ก็ควรเลือกใช้กระจกใสพิเศษดีที่สุด

การใช้งานโดยทั่วไปของกระจกใสพิเศษ จะมีคุณสมบัติทุกอย่างเหมือนกับกระจกโฟลตใสธรรมดา สามารถนำมาแปรรูป เพื่อใช้งานตามจุดประสงค์ต่างๆได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะนำมาทำเป็นกระจกเทมเปอร์ หรือกระจกลามิเนต และด้วยความใสพิเศษของกระจกชนิดนี้จึงได้รับความนิยม ในการเลือกใช้กับงานออกแบบ และตกแต่งทั้งภายใน และภายนอก รวมทั้งงานเฟอร์นิเจอร์กระจก ที่ต้องการเน้นความใสของกระจกมากเป็นพิเศษ

กระจกกันใสพิเศษ

เช่น งานดิสเพลย์ งานตู้โชว์สินค้าระดับ hi end มูลค่าสูงๆ เพื่อให้ได้มุมมองการสะท้องของสินค้าที่ชัดเจน สามารถมองเห็นสี หรือลายได้ตรงความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นงานอาคารธรรมดา การเลือกใช้กระจกใสทั่วไปก็ค่อนข้างพอแล้ว เพราะกระจกใสพิเศษมีราคาสูงกว่ากระจกธรรมดาอยู่ไม่น้อย

แต่หากคุณพอมีงบ บวกกับความต้องการมากขึ้นที่เฉพาะไปอีก เน้นการมองเห็นแบบพาโนราม่าอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดการเลือกใช้กระจกใสพิเศษก็ถือว่าตอบโจทย์ และคุ้มค่าต่อการลงทุนมากๆเลยทีเดียว เพราะนอกจากความสวยงามที่คุณจะได้รับแล้ว ยังสามารถสร้างภาพลักษณ์ ที่มีต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่

• Line | เพิ่มเพื่อน 
• Tel | 
02-960-2790
• Official Fanpange | @TykGroup2016
• E-mail | [email protected]


แชร์บทความนี้

Whoops, looks like something went wrong.